edwinperera.com
Berlin เริ่มเป็นที่รู้จักและออกสู่สายตาชาวโลกเป็นครั้งแรกในงานมิโด้ ซึ่งเป็นงานแว่นตาโลกและจัดขึ้นทุกปีใน กรุงมิลาน ประเทศอิตาลี 5. ic! Berlin ไม่มีเงินจองบูธในงานแว่นตาโลก แม้จะได้ชื่อว่างานมิโด้เป็นจุดเริ่มต้นของชาวโลกที่ได้รู้จักกับ ic! Berlin แต่ชีวิตก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบนัก เนื่องจากตอนนั้นบริษัท ic! Berlin เพิ่งก่อตั้งและไม่มีงบจองบู๊ทในงาน ผู้ก่อตั้งจึงได้ตัดสินใจโชว์แว่นตาที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อด้านในของชุดแจ็คเก็ต และยืนตามช่องทางเดินในงาน คอยแง้มเสื้อออกให้ผู้คนที่เดินผ่านไปมาได้เห็นสินค้า ซึ่งครั้งนั้นได้รับการตอบรับจากผู้ที่พบเห็นได้เป็นอย่างดี และเป็นจุดเริ่มของแว่นตาแบรนด์เนมระดับโลกนับแต่นั้น 6. จุดเด่นของ ic! berlin คือไม่หักและถอดประกอบได้ ปัจจุบันแว่นตา ic! berlin ออกแบบและผลิตจากโรงงานที่มีสายการผลิตที่ทันสมัยที่สุดของเยอรมันนี ด้วยเครื่องจักรเลเซอร์ เพื่อให้แว่นทุกอัน มีคุณภาพเหมือนกัน อีกทั้งยังผลิตด้วยวัสดุแสตนเลสสตีลที่ใช้ในเครื่องมือแพทย์ ไม่เป็นอันตรายในการสวมใส่ แม้กระทั่งผู้ที่แพ้โลหะ และด้วยนวัตกรรมการออกแบบของ ic! berlin จึงได้แว่นตาที่ไม่ใช้น็อต สกรูในการเชื่อมต่อกรอบแว่น และขาแว่น ที่ไม่มีการหักเมื่อมีการกดทับ และสามารถถอดประกอบได้ด้วยตัวเอง 7. ic!
10 เรื่องจริงที่คุณไม่รู้! ic! berlin "ตลาดแว่นตา" ก็เป็นอีกด้านหนึ่งของการลงทุนที่หลายคนอาจมองข้ามและไม่รู้สึกว่า "แว่นตา" จะเป็นธุรกิจที่น่าลงทุน แต่ในความเป็นจริง ผู้ประกอบการธุรกิจเกี่ยวกับสายตา มีการแข่งขันกันสูงไม่แพ้ธุรกิจประเภทอื่น ในเมืองไทยก็มีผู้ประกอบการหลายรายที่ขับเคี่ยวแย่งส่วนแบ่งการตลาด ไม่นับรวมแบรนด์แว่นสายตาจากต่างประเทศที่เข้ามาเจาะตลาดในเมืองไทย หนึ่งในแบรนด์แว่นสายตาที่คนรู้จักอย่างดีต้องมีชื่อของ ic! berlin ที่ถือว่าเป็นแบรนด์แว่นตาที่มีคาแรคเตอร์ของตัวเองชัดเจนและถือเป็นแบรนด์แว่นตาแบรนด์เนมชั้นนำอันดับต้นๆ ของเมืองไทย ซึ่งไม่แน่ว่าเราเองก็อาจจะมี ic! berlin ใช้กันอยู่เพียงแต่เราอาจไม่ได้สนใจว่าที่มาเป็นอย่างไรและมีอะไรเป็นพิเศษ สำหรับแบรนด์นี้ พาทุกคนไปล้วงลึกเป็น 10 เรื่องจริงที่คุณไม่รู้เกี่ยวกับ ic berlin ให้รู้จักแบรนด์นี้กันดีมากขึ้น 1. ic! Berlin แบรนด์แว่นตาจากเยอรมนี ภาพจาก ic! Berlin เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตขึ้นในเมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี ถือเป็นแว่นตาที่มีคุณภาพไม่เกิดความระคายเคืองต่อผิวหนัง มีจุดเด่นทั้งด้านฟังก์ชั่นและแฟชั่น ด้วยการออกแบบด้วยระบบบานพับ ที่ไม่ใช้น๊อต และสกรู ในการเชื่อมต่อกรอบแว่น และขาแว่นที่มีความยืดหยุ่นสูง เบาสบาย ทั้งแว่นสายตาและแว่นกันแดดที่ออกแบบได้ทันสมัย โดดเด่นเป็นที่ยอมรับ และได้รับรางวัลการออกแบบต่างๆ มากมายในวงการแว่นตาระดับโลกตลอด 20 ปีที่ผ่านมา ทำให้เป็นที่ยอมรับในตลาดแว่นตาของประเทศไทย และครองใจตลาดของคนไทยมานานกว่า 10 ปี 2.
58 นิ้ว ใหญ่สะใจ คมชัดทุกรายละเอียดด้วยความละเอียดระดับ FHD+ พร้อมดีไซน์ขอบหน้าจอที่บางกว่า ทำให้เต็มอิ่มกับทุกคอนเทนต์บนจอแสดงผลได้เต็มตาโดยไม่มีขอบหน้าจอมาคอยรบกวนใจ เอาใจคอเกมเมอร์สายไลฟ์สตีมมิง ปล่อยความมันไม่สะดุดด้วยฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์ Vivo Y72 5G คือสมาร์ทโฟนรุ่นแรกใน Y Series ที่รองรับการไลฟ์สตรีมมิ่งบนเครือข่ายสัญญาณ 5G ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 11.
35 นิ้ว ขยายพื้นที่ด้านหน้าให้เต็มไปด้วยหน้าจอแสดงผล Halo FullView Display ซึ่งการดีไซน์แบบใหม่นี้ทำให้รอยบากมีขนาดที่เล็กลง และดูสวยงามมากขึ้น บริเวณรอยบากรูปหยดน้ำจะมีเลนส์กล้องหน้าและเซ็นเซอร์ต่างๆ โดยช่องลำโพงสำหรับเสียงโทรศัพท์จะอยู่ที่ขอบตัวเครื่อง หากไม่สังเกตดีๆ อาจจะมองไม่เห็น เรียกว่าเป็นการดีไซน์ที่ทำให้ด้านหน้าดูสะอาดตามากขึ้นอีกด้วย ขอบด้านล่างตัวเครื่องมีช่องเสียบหูฟัง 3. 5 มม., ไมโครโฟนหลักของเครื่อง, ถัดมาตรงกลางเป็นพอร์ต microUSB และช่องลำโพง ขอบด้านขวามีปุ่มปรับระดับเสียงและปุ่ม Power ขอบด้านซ้ายมีถาดใส่ซิมแบบ 3 Slot รองรับซิมการ์ดขนาด Nano SIM จำนวน 2 ช่อง และใส่เมมได้สูงสุด 256GB ซอฟต์แวร์และประสิทธิภาพการทำงาน Vivo Y17 รันระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 9 (บนพื้นฐานระบบปฏิบัติการ Android 9. 0 Pie) แอพพลิเคชั่นที่ติดตั้งมากับตัวเครื่องจะถูกจัดเรียงไว้ในหน้าจอโฮมทั้งหมด โดยแถบบาร์ด้านบนเมื่อลากลงมาจะเป็นในส่วนของ Notifications แสดงรายการแจ้งเตือนต่างๆ ในขณะที่การลากจากขอบล่างหน้าจอขึ้นมาจะเป็นในส่วนของ Quick Settings สำหรับการเลือกเปิด/ปิดหรือปรับค่าต่างๆ ตัวเครื่องรุ่นนี้รองรับเครือข่าย 4G และเปิดใช้งาน VoLTE ได้ ซึ่งเป็นการส่งข้อมูลเสียงหรือการโทรด้วยความเร็วสูงผ่านสัญญาณ 4G ที่ให้คุณภาพเสียงขณะคุยกันมีความคมชัดมากขึ้น สามารถใช้เน็ตไปพร้อมๆ กันการโทรได้อย่างไม่มีปัญหา ส่วนการเชื่อมต่ออื่นๆ รองรับ Wi-Fi, Bluetooth และพอร์ตเชื่อมต่อ microUSB 2.
0% เป็น 353 ล้านยูโร เทียบกับ 278 ล้านยูโรในปีที่แล้ว รายได้ที่เป็นบวกจาก Emerald Kalama Chemical เกือบถูกชดเชยด้วยต้นทุนพลังงานและค่าขนส่งที่เพิ่มขึ้นค่อนข้างสูง และการหยุดการผลิตโดยไม่ได้วางแผนที่ Saltigo ทำให้ EBITDA จากการดำเนินงานตามปกติของกลุ่มนี้อยู่ที่ 60 ล้านยูโร ซึ่งสูงกว่าตัวเลข 59 ล้านยูโรในไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้วเพียง 1. 7 เปอร์เซ็นต์ ส่วน EBITDA margin จากการดำเนินงานตามปกติอยู่ที่ 17. 0% เทียบกับ 21. 2% ในปีที่แล้ว กลุ่มธุรกิจวัสดุวิศวกรรม (Engineering Materials) เนื่องจากราคาขายที่สูงขึ้นและปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้น จึงมียอดขายเพิ่มขึ้นอย่างมาก ทั้งนี้เนื่องมาจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของอุตสาหกรรมยานยนต์ ยอดขายเพิ่มขึ้น 53. 0% เป็น 436 ล้านยูโรจาก 285 ล้านยูโรในไตรมาสที่สามของปีที่แล้ว แม้จะได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการระบาดใหญ่ของไวรัสโคโรนา แม้ว่าต้นทุนด้านพลังงานและค่าขนส่งที่สูงขึ้นจะส่งผลเสียต่อรายได้ แต่ EBITDA จากการดำเนินงานตามปกติของกลุ่มนี้กลับเพิ่มขึ้น 87. 9 เปอร์เซ็นต์จากไตรมาส 3 ปีที่แล้วที่ 33 ล้านยูโรเป็น 62 ล้านยูโร ส่วน EBITDA margin จากการดำเนินงานตามปกติอยู่ที่ 14.